‘ประยุทธ์’ ย้ายพรรค ซบรวมไทยสร้างชาติตามคาด ลั่นไม่ได้อยากอยู่ต่อ

‘ประยุทธ์’ ย้ายพรรค ซบรวมไทยสร้างชาติตามคาด ลั่นไม่ได้อยากอยู่ต่อ

ประยุทธ์ ย้ายพรรค เปิดตัวซบรวมไทยสร้างชาติ ลั่นไม่ได้อยากอยู่ต่อ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อ สัญญาทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นทางการ ภายในงาน เปิดตัว-เปิดใจ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางกำลังใจที่ล้นหลามไม่ว่าจะมาจากประชาชนหรือสมาชิกพรรคพลังประชารัฐก็ตาม

พล.อ.ประยุทธ์ ที่สวมเสื้อของพรรครวมไทยสร้างชาติ 

ได้กล่าวปราศรัยครั้งแรก โดย ยอมรับว่า ไม่สามารถลบภาพลักษณ์ตัวเองได้ เพราะเป็นทหารมาทั้งชีวิต แต่ก็พยายามปรับตัวมาตลอด และที่นายกรัฐมนตรีมีวันนี้ได้ก็เพราะพวกเรา พวกเราก็คือประเทศไทย ประเทศไทยคือแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ เราต้องรักษาแผ่นดินนี้ให้นานที่สุด รักษาให้มากที่สุด

รู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้ เป็นทหารมาทั้งชีวิต ไม่เคยกลัวอะไร แต่ตอนนี้กลัวความรักที่ได้จากทุกคนกับความรักที่ผมมีให้ท่านจะเพียงพอกันหรือไม่ เพราะผมรักทุกคนจริงๆ ทหารมาทั้งชีวิตได้รับการสั่งสอนมาว่าจะต้อง ซื่อสัตย์ สุจริต เคยอยู่กรมทหราบราบ 21 รักษาพระองค์ มีเครื่องหมายหนึ่ง เรียกว่า หลักสูตรทหารเสือมีเครือ่งติด คือ หลักสูตรทหารเสือ ตราสัญลักษณ์เป็นเสือ 2 ตัว กับหัวใจสีม่วงอยู่ตรงกลาง ความหมายของหัวใจสีม่วง คือ หัวใจของคนใกล้ตาย คนใกล้ตายจะไม่โกหก ต้องซื่อสัตย์สุจริต

นายกฯ กล่าวต่อว่า หลายคนสงสัยว่ามาทำไม เพราะอยากเป็นหรือไม่ อยากเป็นอะไรต่อหรือเปล่า ไม่ได้อยากเป็นใหญ่ ไม่ได้อยากมีอำนาจ เพราะมีอำนาจมาเยอะแล้ว มีมาทั้งชีวิตข้าราชการ แต่อำนาจมาพร้อมความรับผิดชอบ ต้องใช้ให้ถูกต้อง เป็นธรรม ทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้ด้วยดี

พร้อมบอกอีกว่าคิดอยู่หลายวันเรื่องย้ายพรรค เป็นเรื่องที่คิดแล้วคิดอีก คิดมาหลายเดือน ตอนนี้ตัดสินใจแน่นอนแล้ว และถ้าแบบนี้จะมาตั้งนานแล้ว เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีคนรักอยู่หรือไม่

ตนจำเป็นต้องก้าวมาสู่ตรงนี้ หลายอย่างมีเรื่องต้องทำต่อ ทำใหม่ ทำเพิ่ม ทำเพื่อพวกเราทุกคน การตัดสินใจร่วมงานการเมืองก็หวังว่าจะทำเรื่องเหล่านี้ได้เร็วขึ้น ประเทศไทยมีอยู่แล้ว อัตลักษณ์ ความสามัคคี มีอยู่แล้ว ต้องไม่ให้ใครทำลายความรัก ความสามัคคี แม้จะเหนื่อย จะเครียด ก็จะพยายามอดทน เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ไม่ใช่ว่ามาพูดวันนี้แล้วได้เลย เพราะประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

ขอสัญญาว่าด้วยความไว้วางใจของทุกท่าน ขอยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน สำคัญที่สุดวันนี้ ประเทศไทยต้องไปต่อ วันนี้นอนหลับแล้ว นอนไม่หลับมาหลายวัน ตัดสินใจอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจได้

นอกจากนี้ยังได้โชว์น้ำเสียงขึ้นร้องเพลง “ศรัทธา” ของวงหิน เหล็ก ไฟ ว่า “ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธา ไม่มีท้อ รวมไทยสร้างชาติ รวมไทยสร้างชาติ รวมไทยสร้างชาติ”

ทนายตั้ม ถาม ยงยุทธ ร้อนตัวทำไม ปม อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นชู้

ทนายตั้ม ถามแรง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ร้อนตัวทำไม ยังไม่ได้พูดชื่อเลย หลังออกมาปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นชู้ จากกรณีที่ ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาแฉกรณีอดีตรองนายกรัฐมนตรีที่เป็นชู้ หลังจากที่สามีพบภาพสัมพันธ์สวาทกับภรรยาในมือถือ พร้อมให้คำใบ้ว่า เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ มีอายุมากแล้ว เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 51 และพ้นจากสมาชิกเมื่อปี 61 แล้วมาก่อเหตุปี 65

ต่อมา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.มหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธกับข่าวสดว่าไม่ใช่ตน พร้อมอยากให้พรรคเพื่อไทยขับทนายตั้มออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะว่าทนายตั้มเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่

ล่าสุด ทนายตั้ม ได้แชร์หัวข้อข่าวจากข่าวสด โต้ตอบ นายยงยุทธ โดยระบุว่า “อ้าว คุณยงยุทธ ผมยังไม่ได้พูดชื่อคุณเลย ร้อนตัวอะไรหรือเปล่าครับ แล้วจะมาขับผมออกจากพรรคเพื่อไทยทำไม ในเมื่อผมเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่มีความนิยมชมชอบในพรรคเหมือนประชาชนทั่วไปมาหลายปีแล้ว ผมทำผิดอะไรในการให้คำแนะนำกับลูกความ และช่วยปัดเป่าทำความสะอาดพรรค ไม่ให้พรรคมัวหมอง”

ล่าสุด ในโลกออนไลน์ twitter ได้มีการแชร์ภาพหลุดอดีตรองนายกรัฐมนตรี ย ขณะกำลังมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่ปรากฎในข่าวภายในสถานที่แห่งหนึ่ง โดยทั้งสองมีเพศสัมพันธ์แบบเผ็ดร้อน และเป็นฝ่ายหญิงที่ถือมือถือถ่ายรูปเงาสะท้อนกิจกรรมของทั้งสองที่สะท้อนบนกระจกในสภาพเปลือยกาย

นอกจากนี้ในโลกออนไลน์ยังมีภาพของอดีตรองนายกรัฐมนตรีโอบไหล่ของหญิงดังกล่าวด้วย ซึ่งทั้งสองภาพเห็นใบหน้าชัดเจนและเป็นหลักฐานแม่นว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรีที่เป็นชู้คือใคร

ศาลอาญายกฟ้อง นปช. คดีก่อการร้าย ในการชุมนุมใหญ่ปี 53 เว้น เจ๋ง ดอกจิต แก้เป็นติดคุก 5 ปี 4 เดือน และ สุขเสก ติดคุกตลอดชีวิต ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษา คดีก่อการร้าย นปช. พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 71 ปี อดีตประธาน นปช., นาย จตุพร พรหมพันธุ์ อายุ 58 ปี ประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 48 ปี เลขาธิการ นปช., นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 72 ปี

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ดัมมี่ออนไลน์ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ufabet 2023 แทงบอลออนไลน์ สล็อตแตกง่าย