อนุทิน เผยหลังต้อนรับเที่ยวบินจีนเที่ยวแรก ว่าที่ประชุมมีมติ ยกเลิกแสดงเอกสารฉีดวัคซีน ปรับนโยบายเข้าประเทศ มีผลแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเที่ยวบินแรกที่บินมาจากเซี๊ยะเหมิน โดยมีผู้โดยสาร 269 คน ซึ่งนายอนุทินได้ปรับนโยบายเข้าประเทศของชาวต่างชาติ และ ยกเลิกการแสดงเอกสารฉีดวัคซีนโควิด-19 เริ่มตั้งแต่ 9 ม.ค.2566 เป็นต้นไป
นายอนุทินให้เหตุผลว่า คณะกรรมการวิชาการตามพรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
มีการประชุมเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2566 มีความเห็นว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยครอบคลุมจำนวนมาก รวมถึง ประเทศต่างๆทั่วโลกส่วนใหญ่ก็มีการฉีดวัคซีนจำนวนมากแล้ว ขณะที่การกำหนดให้แสดงเอกสารฉีดวัคซีนจะทำให้เกิดความไม่คล่องตัว จึงไม่มีความจำเป็นต้องแสดง
ทำให้มาตรการเข้าประเทศล่าสุด คงเหลือเพียงประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางจากประเทศที่กำหนดว่าเมื่อจะกลับเข้าประเทศนั้นๆ จะต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธีPCR เพื่อที่หากตรวตพบเชื้อแล้วต้องรักษาในประเทศไทย จะได้มีการรองรับค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ไม่ได้กำหนดอัตราประกันสุขภาพ เพราะผู้เดินทางส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อประกันสุขภาพในการใช้เข้าประเทศไทยอย่างเดียว
“นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เดินทางเข้าไทยจำนวนมาก ไม่เฉพาะจีน และทุกประเทศยังมีการระบาดของโควิด-19 ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น สิ่งที่ไทยต้องทำ คือ เตรียมตัวเราให้พร้อม คนไทยฉีดวัคซีนอย่างน้อย 4 เข็มจะช่วยป้องกันอาการรุนแรงและการเสียชีวิต ส่วนผู้เดินทางเข้าไทย มั่นใจส่วนใหญ่จะรับวัคซีนแล้วถึงกล้าเดินทางออกนอกประเทศ แต่หากจะมีฉีดวัคซีนในไทยก็ได้ แต่จะต้องเสียค่าใช้จ่าย เบื้องต้นให้เข้ารับที่สถานพยาบาลของรัฐก่อน และอยู่ระหว่างประสานสถานพยาบาลเอกชนในการให้บริการวัคซีนกับต่างชาติ ถึงแนวทางเก็บค่าใช้จ่าย” นายอนุทินกล่าว
สำหรับวันนี้จะมีเที่ยวบินจากจีนเข้ามา 15 เที่ยวบิน จำนวน 3,465 คน คาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีผู้เดินทางจากจีนเข้าไทยราว 7-10 ล้านคน
นายก่อแก้ว พิกุลทอง อายุ 58 ปี, นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา อายุ 71 ปี, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก อายุ 65 ปี, นายนิสิต สินธุไพร อายุ 67 ปี, นายการุณ โหสกุล อายุ 56 ปี, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อายุ 72 ปี, นายภูมิกิติ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง อายุ 63 ปี, นายสุขเสก พลตื้อ อายุ 47 ปี
นายจรัญ หรือยักษ์ ลอยพูล อายุ 52 ปี, นายอำนาจ อินทโชติ อายุ 67 ปี, นายชยุต ใหลเจริญ อายุ 50 ปี, นายสมบัติ หรือผู้กองแดง มากทอง อายุ 61 ปี, นายสุรชัย เทวรัตน์ อายุ 38 ปี, นายรชต วงค์ยอด, นายยงยุทธ ท้วมมี อายุ 67 ปี, นายอร่าม แสงอรุณ อายุ 62 ปี, นายเจ็มส์ สิงห์สิทธิ์ อายุ 42 ปี, นายมานพ ชาญช่างทอง อายุ 62 ปี, นายสมพงษ์ บางชม, นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อายุ 59 ปี ทั้งหมดเป็นแกนนำ, การ์ด และแนวร่วม นปช. เรียงตามลำดับเป็นจำเลยที่ 1-24
‘ชัชชาติ’ ออกมาตรการโควิด 4 ข้อ รับจีนเปิดประเทศ
ชัชชาติ เผยรู้สึกกังวลแม้จะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจหลัง จีนเปิดประเทศ สั่งออกมาตรการโควิด 4 ข้อ สกัดโควิดแพร่ระบาด นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการโควิดรับมือนักท่องเที่ยวจีนในกรุงเทพ หลังจากที่วันนี้จะเป็นวันแรกที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย จากนโยบายจีนเปิดประเทศ ว่าตนมอบหมายให้ น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. เป็นผู้ประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทั้งหมด ภายใต้ 4 มาตรการ
1.ประเมินสถานการณ์ความพร้อมเรื่องเตียง บุคลากร และวัคซีน
2.ประเมินจุดเสี่ยงที่มีแนวโน้มนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น เยาวราช ถนนข้าวสาร โรงแรม วัด และแหล่งท่องเที่ยวชุมชนตลาดน้ำต่างๆ ซึ่งกลุ่มนี้มีโอกาสติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
3.จัดตั้งศูนย์บัญชาการโควิดโดยใช้ศูนย์ที่มีอยู่เดิม เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างเคร่งครัด
4.เน้นมาตรการ SHA PLUS ซึ่งกำหนดให้การติดต่อกับนักท่องเที่ยวต้องอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ทั้งตัวเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยว เพื่อจะได้ไม่เกิดการแพร่เชื้อ รวมถึงมีการติดตามอย่างใกล้ชิด ภายใต้มาตรการกระทรวงสาธารณสุข
สิ่งที่ต้องเตรียมการและวางแผนคือ กรณีมีผู้ต้องการรับวัคซีนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในสภาวะปกติ กทม.ฉีดวัคซีนให้ทุกคน ทุกกลุ่มฟรี แต่หากมีนักท่องเที่ยวต้องการฉีดวัคซีนจำนวนมาก อาจต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นพิจารณาว่า หากต้องมีค่าใช้จ่ายจะดำเนินการอย่างไร
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาสถานที่รองรับนักท่องเที่ยวกรณีติดโควิดแล้วกลับประเทศไม่ได้ ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย รวมถึงพิจารณาเรื่องเงื่อนไขรายละเอียดของประกันนักท่องเที่ยว ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร
นาย ชัชชาติ รับว่าส่วนตัวมีความกังวล แม้จะดีต่อสภาพเศรษฐกิจ แต่ต้องมีความกังวลไว้ก่อน เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรับมือต่อไป ซึ่งในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่างถนนข้าวสาร กทม.มีการตรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และได้กำชับเรื่องมาตรการโควิดมากขึ้น ซึ่งได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบและกำชับมาตรการโควิดอย่างเข้มข้น
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า ไฮโลออนไลน์