ชาวเน็ตถล่มไอจี ดีเจมะตูม โพสต์ถามหา จิตสำนึก หลังจัดปาร์ตี้วันเกิด

ชาวเน็ตถล่มไอจี ดีเจมะตูม โพสต์ถามหา จิตสำนึก หลังจัดปาร์ตี้วันเกิด

เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา หลังจากที่มีข่าวการติดเชื้อ โควิด-19 ของพิธีกรชื่อดัง ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร โดยติดจากเพื่อนที่เดินทางไปทานอาหารร่วมกันตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ล่าสุด (24 ม.ค.) อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ออกมาชี้แจงประเด็น ปาร์ตี้วันเกิดของ ดีเจมะตูม ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพฯ เผย มีผู้ติดเชื้อจากปาร์ตี้ดังกล่าวจำนวน 19 ราย และจากหลากหลายอาชีพ ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกไม่พอใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเข้ามาโพสต์ต่อว่าดีเจมะตูมผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คกันเป็นจำนวนมาก

ต่อมา (25 ม.ค.) เพื่อนของดีเจมะตูมจึงออกโรงปกป้อง โพสต์อินสตาแกรมสตอรี่โต้กลับชาวเน็ตที่เข้ามาโพสต์ด่าเพื่อนของตน

ทำให้ดราม่าระอุขึ้นอีกครั้ง หลังชาวเน็ตแห่เข้าไปคอมเมนต์ใต้ภาพล่าสุดที่โพสต์เมื่อ 4 ที่แล้ว (22 ม.ค.) ของดีเจมะตูมในอินสตาแกรมส่วนตัว โดยถามหา ‘จิตสำนึก’ หลังเจ้าตัวกลายเป็น ‘ซูเปอร์สเปรดเดอร์’ ตามที่แพทย์กล่าว พร้อมทั้งคอมเมนต์ต่อว่าอีกมากมาย

ผมว่ามันเลยแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ครับ แล้วก็สามารถ Appreciate จากความสวยงามที่มันไม่ได้เป็น Stereotype ที่เราเคยบอกว่าต้องเห็นพระอาทิตย์ตกเท่านั้นถึงจะเป็นความสวยงาม แต่จริง ๆ แล้วความสวยงามมันแทรกอยู่ระหว่างทางเต็มไปหมดครับ เราไม่เห็นพระอาทิตย์ตกไม่เป็นไรครับ เพราะว่ามันเหมือนระหว่างทางอย่างที่พี่ย้งพูดว่าข้างทางมันสวย มันเหมือนมันเติมไปเรื่อย ๆ มันแตกต่างจากการเดินป่า หรือเขาที่ผ่าน ๆ มาของบางที่ที่ระหว่างทางมันก็คือเดินไปเลยมันไม่ได้มีอะไรให้ Appreciate มาก ของที่นี่สวยตลอดทาง”

การเดินทางครั้งนี้มันทำให้เราเรียนรู้อะไรบ้าง “ผมรู้สึกว่าเหมือนกับว่าเราได้กลับไปอยู่กับธรรมชาติจริง ๆ มันคือการที่เราได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ได้ทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างกับตัวเอง แล้วมันก็ทำให้คิดปัญหาหลาย ๆ อย่างที่เราเจอ แล้วมันก็เป็นการเรียนรู้กับตัวเองในรูปแบบนึง ที่ทำให้เราสงบขึ้น และมันก็เป็นการเตือนว่าเดี๋ยวปัญหาในชีวิตเข้ามาแล้วเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป แล้วเดี๋ยวมันก็จะเกิดขึ้นมาอีก ทำให้เราทบทวนกับวิธีการคิด วิธีการใช้ชีวิตของเรา รวมไปถึงการได้เรียนรู้ความสำคัญของธรรมชาติในแบบที่มันลึกขึ้นกว่าสิ่งที่เราเคยเข้าใจ มันก็กลายเป็นว่าพอเราจบทริปเรารู้สึกว่าเราเห็นค่าและอยากช่วยดูแลมันครับ”

อยากให้ฝากถึง HangOver ดอยหลวงเชียงดาวหน่อยมีความน่าสนใจ ความน่าติดตามยังไงบ้าง “สำหรับ HangOver ครั้งนี้นะครับ สำหรับผมรู้สึกว่ามันแตกต่าง ทั้งในเรื่องของรูปแบบทริป มันเป็นในเชิงที่เราไปเที่ยวแบบดูแลรักษาธรรมชาติจริง ๆ เราได้ไปศึกษาธรรมชาติด้วยไม่ใช่แค่การไปท่องเที่ยวเฉยๆ ที่แรกก็กังวลเหมือนกันครับ เพราะว่ามันมีความเป็นนามธรรมค่อนข้างสูงในเรื่องของการอธิบายความรู้สึก

แต่ว่าพอมาทำจริง ๆ ภาพต่าง ๆ มันก็ส่งเสริมการเล่าเรื่องตรงนี้ให้มันทำให้สิ่งที่มันดูอาจจะนามธรรมมาก ๆ คนน่าจะพอเข้าใจได้ ถึงแม้เขาอาจจะไม่ได้เข้าใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผมเชื่อว่าภาพแล้วก็สิ่งที่เราเล่ามันจะทำให้เขาอยากจะลองไปสัมผัสด้วยตัวเองครับ”

ระยะทางที่ดูแสนไกล แต่ทำไมดูใกล้กับความสุข ร่วมหาคำตอบที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติ กับ โปรเจกต์สุดพิเศษ HANGOVER “เชียงดาว Nature Reconnect” รถติดตามชมได้ทุกวันเสาร์ เวลา 10.30 น. ที่ Youtube Nadao Bangkok

หญิงลี เผย หากเสียก่อนมีลูก จะยกทรัพย์สินสร้าง มูลนิธิเด็กกำพร้า

หญิงลี ศรีจุมพล โพสต์คลิปเผย หากเสียก่อนมีลูก จะยกทรัพย์สินให้พ่อแม่ส่วนหนึ่ง และสร้าง มูลนิธิเด็กกำพร้า ที่บริษัทลั้ลลากรุ๊ปจำกัด นับว่าเป็นนักร้องลูกทุ่งสาวที่ใจบุญอีกคนหนึ่งอย่าง หญิงลี ศรีจุมพล หลังออกมาโพสต์คลิปวิดีโอประกาศ หากเสียชีวิตก่อนมีลูก จะยกทรัพย์สินให้พ่อแม่ส่วนหนึ่ง และสร้างมูลนิธิเด็กกำพร้าที่ บริษัทลั้ลลากรุ๊ปจำกัด เมื่อวานที่ผ่านมา (25 ม.ค.) ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Yinglee Srijumpol โดยภายในคลิประบุว่า

“สวัสดีเช้าวันที่ 25 ม.ค.64 เช้าที่เงียบเหงาและการตัดสินใจประกาศถึงทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เป็นไปในอนาคต หากหญิงลีเสียชีวิตจากเหตุการณ์ใดๆ ก็ตาม ขอยกทรัพย์สินบริษัทลั้ลลากรุ๊ป ยกให้เป็นสาธารณกุศล เป็นมูลนิธิให้เด็กกำพร้าที่พ่อแม่ไม่มีกำลังเลี้ยงดูได้อยู่อาศัย โดยฝากเรื่องให้พี่ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นคนจัดการธุรกรรมและบุคลากรความน่าเชื่อถือในอนาคตทั้งหมด

ในส่วนของรีสอร์ทหญิงลีลั้ลลา มูลค่ากว่า 20 ล้าน ให้ขายทอดตลาด เพื่อนำเงินเข้ามูลนิธิหญิงลีเพื่อเด็กกำพร้าที่กรุงเทพฯ ส่วนพ่อแม่จะได้เงินจากการเสียชีวิตจากประกันมูลค่า 10 ล้านบาท รวมถึงรถทุกคันที่ไม่ติดงวด และบ้านสองหลังที่อยู่ติดกันกับลั้ลลากรุ๊ปเขตสายไหม ที่นาแปลงใหม่ และที่ดินอื่นๆ รวมถึงทรัพย์สินที่หญิงลีหามาได้มูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาทตามที่บอก

วันนี้ที่อยากพูดเพราะความตายอยู่ใกล้ทุกคน ไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม ถ้าหญิงลียังอยู่ก็ยังดำเนินธุรกิจไป แต่ถ้าไม่อยู่ก็ตามนั้น ซึ่งหญิงลีมองว่าถ้าหญิงลีเป็นอะไรไปก็ขอให้ทรัพย์สินที่หญิงลีหามา มีประโยชน์กันเด็กยากไร้ที่พ่อแม่ไม่มีกำลังเลี้ยงดู ฝากผู้ใหญ่ใจดีร่วมเป็นจิตอาสาดูแลจุดนี้ช่วยหญิงลี หญิงไม่รู้จะหาเงินไปทำไมอีก ที่ทำทุกวันนี้เพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายตอนเป็นเด็ก ตอนนั้นเรายากจนขาดแคลนทุกอย่าง ในวันนี้ก็แค่เติมเต็มให้ตัวเองได้มีได้ใช้ในสิ่งที่ไม่มี

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ป๊อกเด้งออนไลน์